เจ้าหน้าที่มูลนิธิซิสเตอร์อบรม CPR, BLS, AED เสริมความพร้อมช่วยชีวิต
ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลา การมีบุคลากรที่สามารถตอบสนองได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว คือหัวใจสำคัญของการช่วยชีวิต มูลนิธิซิสเตอร์จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพบุคลากร และได้จัดการฝึกอบรมหลักสูตร การปฐมพยาบาลฉุกเฉิน (Basic Life Support – BLS), การทำ CPR (Cardiopulmonary Resuscitation) และ การใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (AED – Automated External Defibrillator) แก่เจ้าหน้าที่ทุกคน
ความรู้เบื้องต้นที่อาจเปลี่ยนชีวิตคนหนึ่งคน
การอบรมในครั้งนี้ ไม่เพียงมุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่มีความรู้เชิงทฤษฎีเท่านั้น แต่ยังเน้นภาคปฏิบัติที่ใกล้เคียงสถานการณ์จริงมากที่สุด เพราะในภาวะวิกฤต เช่น หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน การช่วยเหลือในวินาทีแรกสามารถสร้างความแตกต่างระหว่าง “ชีวิต” กับ “ความสูญเสีย” ได้อย่างชัดเจน ทักษะสำคัญที่อบรม ได้แก่
- การประเมินสถานการณ์ผู้ป่วย
- การเรียกขอความช่วยเหลือ
- การทำ CPR ที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล
- การใช้ AED อย่างแม่นยำ
- ตลอดจนการปฐมพยาบาลขั้นต้น เช่น การห้ามเลือด การช่วยคนสำลัก และการดูแลผู้หมดสติ
การใช้ AED: อุปกรณ์สำคัญที่ใคร ๆ ก็ใช้ได้ หากได้รับการฝึก
เครื่อง AED ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ผู้ใช้จะไม่ใช่แพทย์หรือพยาบาล แต่หากได้รับการอบรมที่ถูกต้อง ก็สามารถใช้งานได้ทันที
ในหลักสูตรอบรม เจ้าหน้าที่ได้เรียนรู้การเปิดเครื่อง อ่านคำแนะนำจากระบบอัตโนมัติ การติดแผ่นนำไฟฟ้า และการวิเคราะห์จังหวะหัวใจของผู้ป่วย โดยระบบจะประเมินว่าควรส่งกระแสไฟหรือไม่ ทุกขั้นตอนเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วยและผู้ให้ความช่วยเหลือเป็นหลัก
ความสำคัญของการเตรียมพร้อมในทุกสถานการณ์
มูลนิธิซิสเตอร์มีพันธกิจในการดูแลสุขภาวะของประชาชนในหลายมิติ การมีบุคลากรที่มีทักษะการปฐมพยาบาลฉุกเฉินจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือความจำเป็น เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมสามารถให้ความช่วยเหลือได้ทั้งภายในองค์กรและเมื่อต้องออกภาคสนาม ตอบโจทย์ความพร้อมในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ การมีความรู้พื้นฐานในการดูแลผู้ป่วยยังเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่เอง และยังส่งผลดีต่อการทำงานร่วมกับภาคประชาชน สร้างความเชื่อมั่นว่า มูลนิธิพร้อมอยู่เคียงข้างชุมชนในยามคับขัน
เพราะ “หนึ่งมือ” ที่ช่วยถูกวิธี อาจหมายถึง “หนึ่งชีวิต” ที่รอดกลับมา
การฝึกอบรมในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การเรียนรู้เพื่อสอบผ่าน แต่คือการสร้าง “ผู้รู้จริง” ที่สามารถลงมือได้ทันทีเมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นจริง มูลนิธิซิสเตอร์ขอขอบคุณวิทยากรผู้เชี่ยวชาญและทุกภาคส่วนที่สนับสนุนให้เกิดการอบรมในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และเสริมสร้างสังคมที่ห่วงใยและพร้อมช่วยเหลือกัน