คู่รักเพศหลากหลายหย่าร้าง ทรัพย์สินส่วนกลางจะถูกแบ่งอย่างไรตามกฎหมายไทย
หลังจากประเทศไทยผ่านร่างกฎหมาย “สมรสเท่าเทียม” และเปิดโอกาสให้คู่รักเพศหลากหลายสามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หนึ่งในคำถามที่ตามมาและยังไม่ค่อยถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายคือ “ถ้าหย่าร้างแล้ว ทรัพย์สินจะถูกแบ่งอย่างไร?” เพราะเมื่อกฎหมายรับรองความเป็น "คู่สมรส" อย่างเท่าเทียมแล้ว เรื่องการหย่าร้างและการแบ่งสินทรัพย์ก็ต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์เดียวกับคู่สมรสชายหญิงด้วยเช่นกัน
การจดทะเบียนสมรสเพศเดียวกันในประเทศไทย
หลังจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ คู่รักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสได้ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ เช่นเดียวกับคู่รักชายหญิง เมื่อจดทะเบียนแล้ว คู่สมรสทั้งสองฝ่ายจะได้รับสถานะทางกฎหมายในฐานะ “คู่สมรส” ครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการตัดสินใจทางการแพทย์ มรดก หรือแม้กระทั่งการหย่าร้าง ล้วนใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับคู่ชายหญิง ซึ่งรวมถึงเรื่องของ “สินสมรส” หรือทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มาร่วมกันระหว่างอยู่กิน
สินสมรสคืออะไร?
ตามกฎหมายไทย “สินสมรส” หมายถึงทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส เช่น
- เงินเดือน รายได้จากการทำงาน
- ทรัพย์สินที่ซื้อร่วมกัน
- บ้าน รถ หรือของมีค่าที่ซื้อมาในช่วงเวลาสมรส
- ดอกผลจากสินส่วนตัว (เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล)
ในขณะที่ “สินส่วนตัว” คือ ทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนสมรส หรือทรัพย์สินที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หา มรดก หรือรางวัลเฉพาะบุคคล ซึ่งโดยหลักจะไม่ต้องแบ่งเมื่อหย่าร้าง
หากหย่าร้างแล้ว สินสมรสต้องแบ่งอย่างไร?
เมื่อคู่สมรสตัดสินใจหย่าร้าง ไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกันหรือเพศต่างกัน ทรัพย์สินที่จัดเป็น “สินสมรส” จะต้องถูกแบ่งเท่ากันในสัดส่วน 50:50 เว้นแต่จะตกลงกันเองไว้เป็นอย่างอื่น เช่น มีข้อตกลงก่อนสมรส (Prenup) หรือลงนามในสัญญาแบ่งทรัพย์ การแบ่งสินสมรสครอบคลุมทั้งทรัพย์สินที่จับต้องได้ เช่น บ้าน รถ และทรัพย์สินทางการเงิน เช่น บัญชีเงินฝาก กองทุน หุ้น หรือแม้กระทั่งหนี้สินที่ก่อร่วมกัน เช่น กู้ซื้อบ้าน กู้ทำธุรกิจ เป็นต้น
หนี้สินหลังหย่าร้างใครต้องรับผิด?
คู่สมรสมีหน้าที่ร่วมกันในการรับผิดชอบ “หนี้สมรส” ซึ่งหมายถึงหนี้ที่เกิดขึ้นระหว่างสมรสเพื่อประโยชน์ของครอบครัว เช่น หนี้กู้ซื้อบ้าน หนี้ค่าเทอมบุตร หนี้ลงทุนในกิจการร่วมกัน เมื่อหย่าร้างแล้ว หากไม่มีข้อตกลงอื่น หนี้สมรสต้องแบ่งรับผิดร่วมกันคนละครึ่ง แต่หากเป็นหนี้ส่วนตัว เช่น หนี้พนัน หนี้นอกระบบที่อีกฝ่ายไม่รู้เห็น ฝ่ายนั้นต้องรับผิดชอบแต่เพียงลำพัง
การทำข้อตกลงก่อนสมรส: ทางเลือกที่ควรพิจารณา
ไม่ว่าคู่รักจะเป็นเพศเดียวกันหรือไม่ การทำ “สัญญาก่อนสมรส” (Prenuptial Agreement) เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยป้องกันปัญหาเรื่องทรัพย์สินในกรณีเกิดการหย่าร้างได้ดี คู่สมรสสามารถระบุชัดเจนว่าอะไรคือสินส่วนตัว อะไรคือสินสมรส และใครจะรับผิดชอบเรื่องใด แม้ในทางวัฒนธรรมไทยการทำสัญญาเช่นนี้อาจดูว่าไม่โรแมนติก แต่ในเชิงกฎหมายแล้วถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อม และช่วยลดความขัดแย้งเมื่อต้องแยกทางกันในอนาคต
ลูกในความดูแล และสิทธิในการเลี้ยงดู
หากคู่รักเพศเดียวกันมีบุตร (เช่น รับเลี้ยง หรือมีบุตรทางอุ้มบุญ) กฎหมายไทยจะต้องมีการปรับเพื่อรองรับสถานะความเป็นผู้ปกครองร่วม ซึ่งยังคงอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน บางกรณีศาลอาจให้สิทธิเลี้ยงดูฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาม “ประโยชน์สูงสุดของเด็ก” โดยไม่เลือกปฏิบัติจากเพศของบิดาหรือมารดา