เชียงใหม่สร้างปรากฏการณ์แห่งความภาคภูมิใจให้กับชุมชนหลากหลายทางเพศทั่วประเทศอีกครั้งในปีนี้ ด้วยการประกาศเปิดงาน Chiang Mai Pride 2025 อย่างเป็นทางการในวันที่ 25 พฤษภาคม ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความชื่นชมยินดี การแสดงออกถึงอัตลักษณ์อย่างเสรี และการรวมพลังจากทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน
งานเริ่มต้นด้วยขบวนพาเหรดขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไปอย่างสง่างาม จากพุทธสถานผ่านถนนท่าแพ เข้าสู่ไนท์บาซาร์ และสิ้นสุดที่ลานประตูท่าแพ ซึ่งกลายเป็นศูนย์รวมของการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ผู้ร่วมงานนับพันสวมใส่ชุดสีรุ้ง ธง Pride โบกสะบัดอย่างภาคภูมิใจ เสียงเพลงและเสียงหัวเราะดังก้องเหนือเมืองเชียงใหม่ ประหนึ่งเป็นการต้อนรับเดือนแห่งเสรีภาพ และความรักที่ไม่มีขอบเขต
หนึ่งในจุดเด่นของChiang Mai Pride 2025 คือการจัดพาเหรดที่มีมากถึง 25 ขบวน แต่ละขบวนล้วนมีการนำเสนอประเด็นทางสังคมอย่างแยบยลตั้งแต่การสนับสนุนสิทธิการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกัน ไปจนถึงการเน้นย้ำความจำเป็นของพื้นที่ปลอดภัยในโรงเรียนสำหรับเยาวชน LGBTQ+ รูปแบบของขบวนไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การเฉลิมฉลอง แต่ยังเป็นเสียงสะท้อนจากชุมชนที่ต้องการเปลี่ยนแปลง
ลานประตูท่าแพในวันดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางของขบวนพาเหรด แต่ยังกลายเป็นเวทีของศิลปะ ดนตรี และการเสวนาเชิงสร้างสรรค์ ศิลปิน LGBTQ+ จากทั่วประเทศผลัดกันแสดงบนเวทีหลัก โดยมีการกล่าวสุนทรพจน์จากนักเคลื่อนไหวที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันกฎหมายและนโยบายที่ครอบคลุม ความหลากหลายทางเพศ

ภายในงานยังจัดให้มีโซนนิทรรศการที่เปิดให้ประชาชนได้เข้าร่วมเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของ Pride ในประเทศไทย รวมถึงกระบวนการต่อสู้ของชุมชน LGBTQ+ ที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความกล้าหาญ ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เทศกาลนี้เติบโตมาอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีที่ 9
ไฮไลต์อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือกิจกรรมประกวด Pride Ambassador ซึ่งเปิดพื้นที่ให้กับคนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพและเป็นกระบอกเสียงแทนชุมชน หลากหลายมุมมองถูกนำเสนออย่างกล้าหาญ ทั้งเรื่องเพศศึกษาในระบบการศึกษาความรุนแรงในครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับรสนิยมทางเพศ ไปจนถึงความจำเป็นในการสร้างระบบสาธารณสุขที่ครอบคลุมกลุ่มเปราะบาง
เชียงใหม่ในปีนี้ไม่เพียงแค่จัดงานเทศกาลเท่านั้น แต่ยังประกาศตนเป็นเมืองที่เปิดกว้างและพร้อมจะรับฟังเสียงของคนที่มักถูกมองข้าม ภายใต้การประสานความร่วมมือจากหน่วยงานระดับจังหวัด องค์กรเอกชน และกลุ่มอิสระ งานChiang Mai Pride 2025 จึงสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านของสังคมไทยที่เริ่มเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยถูกปิดกั้น

ขณะเดียวกันจุดจัดงานอื่น ๆ ทั่วเมืองก็มีความเคลื่อนไหวอย่างไม่แพ้กัน พันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ จัดกิจกรรมเชิงศิลปะร่วมสมัย การฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และแฟชั่นโชว์ที่ผสมผสานแนวคิดเรื่องอัตลักษณ์ ความภาคภูมิใจ และการต่อต้านอคติโดยทุกกิจกรรมเปิดรับประชาชนทุกวัย และเน้นการสร้างพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างอิสระ
แม้ว่า Pride จะเริ่มจากการเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่ในปัจจุบัน เทศกาลนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนสำคัญที่สะท้อนจิตวิญญาณประชาธิปไตยของประเทศไทย งานChiang Mai Pride 2025 ไม่ใช่เพียงแค่กิจกรรมบันเทิง แต่คือการรวมตัวกันของผู้คนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงจริงจังในสังคม
ค่ำคืนในเชียงใหม่จบลงด้วยการแสดงแสงสีเสียงที่ลานประตูท่าแพ ผู้คนยังคงเดินทางกลับด้วยรอยยิ้มและความรู้สึกอบอุ่นใจ เพราะรู้ว่าอย่างน้อยในวันนี้ เสียงของพวกเขาได้รับการรับฟัง และเปล่งประกายอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน เทศกาล Chiang Mai Pride 2025 จึงไม่เพียงแต่สร้างสีสันให้กับเมือง แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับประเทศ.