วันเอดส์โลก 2568: อัปเดตสถานการณ์ HIV ไทยล่าสุด

วันเอดส์โลก 2568: อัปเดตสถานการณ์ HIV ไทยล่าสุด

ถ้าพูดถึงหนึ่งในวันที่สำคัญที่สุดของปีสำหรับประเด็นด้านสุขภาพสาธารณะ คงหนีไม่พ้นวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งเป็น วันเอดส์โลก (World AIDS Day) หลายคนอาจมองว่าเป็นวันรณรงค์ทั่วไป แต่จริง ๆ แล้ววันเอดส์โลกมีบทบาทสำคัญอย่างมาก ทั้งในแง่การสร้างความเข้าใจใหม่ ๆ การอัปเดตสถานการณ์ระดับประเทศ และการเตือนว่าปัญหาเอชไอวียังไม่จบ—แต่เราสามารถร่วมกันแก้ได้อย่างเป็นรูปธรรม

Love2test

ปีนี้ วันเอดส์โลก 2568 ของประเทศไทยมาพร้อมแนวคิด “ก้าวข้ามวิกฤต พลิกโฉมงานเอดส์” สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยต้องการพัฒนาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ทั้งในเชิงบริการ การสื่อสาร และความเข้าใจของประชาชน บทความนี้จะพาคุณไปอัปเดตแบบละเอียด แต่เล่าให้ง่ายเหมือนเพื่อนคุยกัน ว่า… สถานการณ์เอชไอวีในไทยตอนนี้เป็นอย่างไร? แนวโน้มดีขึ้นไหม? อะไรคือสิ่งที่เราต้องรู้ในปี 2568? และที่สำคัญ คุณสามารถดูแลตัวเองและคนรอบตัวได้อย่างไรบ้างตั้งแต่วันนี้

“ChatLove2test"

วันเอดส์โลก 2568 : สถานการณ์เอชไอวีในไทยปีล่าสุด

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน มาดูสรุปสถานการณ์ “ล่าสุด” ในประเทศไทยเกี่ยวกับเอชไอวี

วันเอดส์โลก 2568 สถานการณ์เอชไอวีในไทยปีล่าสุด

ประเด็นสำคัญตัวเลข (ปีล่าสุด)
ผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิต565,598 คน
ผู้ติดเชื้อรายใหม่8,124 ราย/ปี
ผู้เสียชีวิตจากเอดส์หลักหลายพัน ราย/ปี
วิธีติดเชื้อที่พบมากที่สุด96.4% มาจากเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน
กลุ่มเสี่ยงที่พบมาก– วัยรุ่น–วัยทำงาน, กลุ่มชายรักชาย
– คู่รักที่ไม่มีความสม่ำเสมอในการป้องกัน

ตัวเลขเหล่านี้อาจดูเยอะ แต่ก็เปิดโอกาสให้เราพูดสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือประเทศไทย “ไม่ได้ย่ำอยู่ที่เดิม” และกำลังขยับเข้าใกล้เป้าหมาย ยุติปัญหาเอดส์ในปี 2573 มากขึ้นเรื่อย ๆ

ทำไม วันเอดส์โลก จึงต้องพูดเรื่องการอัปเดตสถานการณ์?

เพราะหลายปีที่ผ่านมา เราเจอหลายปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์เอชไอวีผันผวน เช่น

“PrEPLove2test"
  • วิกฤตโควิดที่ทำให้คนเข้าถึงบริการลดลง
  • เศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำที่ทำให้คนจำนวนมากเลื่อนการตรวจ
  • ข้อมูลผิด ๆ ที่แพร่ในโลกออนไลน์
  • ความกลัวที่จะถูกมองไม่ดี

ดังนั้น วันเอดส์โลก เป็นเวลาที่เราจะสรุปภาพรวมปีที่ผ่านมา ว่าเราพัฒนาไปถึงไหนแล้ว และยังต้องปรับอะไรอีกเพื่อเดินหน้าต่อ

สรุปสถานการณ์เอชไอวีในไทย

อัตราติดเชื้อใหม่ยังมีอยู่

  • เฉลี่ยปีละกว่า 8,000 คน
  • สาเหตุหลัก คือเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน ไม่สวมถุงยางอนามัย
  • วัยรุ่น–วัยทำงานมีสัดส่วนสูงขึ้นเรื่อย ๆ

อัตราที่ยังรักษาไม่ต่อเนื่อง

  • บางคนหยุดยาเอง
  • บางคนกลัวปิดบังเรื่องสุขภาพ
  • ทำให้ต้องกลับมารักษาใหม่ซึ่งยากขึ้น

แต่ข่าวดีคือ…

  • ยุคนี้การรักษาดีกว่าเดิมมาก
  • ผู้ที่กินยาต้านต่อเนื่องส่วนใหญ่ “ตรวจไม่พบไวรัส”
  • เมื่อ ตรวจไม่พบ = ไม่แพร่เชื้อ (U=U)
  • คนติดเชื้อสามารถมีชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้ครบทุกอย่าง

เป้าหมายงานเอดส์ปี 2573 ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา

เป้าหมายปี 2573: ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา

ประเทศไทยประกาศเป้าหมายใหญ่มานานแล้ว และยังยืนยันเป้าหมายนี้ในวันเอดส์โลกปี 2568 ได้แก่

  • ลดผู้ติดเชื้อใหม่ให้ไม่เกิน 1,000 ราย/ปี
  • ลดการเสียชีวิตจากโรคเอดส์ให้ต่ำกว่า 4,000 ราย/ปี
  • ลดการตีตราให้ใกล้ศูนย์ที่สุด

นี่ไม่ใช่ความฝันลอย ๆ แต่เป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้จริง เพราะเทคโนโลยีการรักษาและแนวคิดใหม่ ๆ เช่น U=U ทำให้คุณภาพชีวิตคนติดเชื้อดีขึ้นมากกว่าเดิมแบบก้าวกระโดด

บริการด้านเอชไอวีฟรี สำหรับคนไทยทุกคน

ประเภทบริการรายการที่ได้รับฟรีรายละเอียดเพิ่มเติม
ป้องกันฟรี• ถุงยางอนามัย
• ยา PrEP (ป้องกันก่อนมีความเสี่ยง)
• ยา PEP (หลังมีความเสี่ยงภายใน 72 ชั่วโมง)
– รับได้จากหลายหน่วยบริการของรัฐและคลินิกที่ร่วมโครงการ
– PEP ต้องเริ่มภายใน 72 ชั่วโมงเท่านั้น
ตรวจฟรี• ตรวจ HIV ปีละ 2 ครั้งตามสิทธิ์
• ชุดตรวจ HIV ด้วยตนเอง (Self-test)
– ตรวจตามสิทธิ์ที่โรงพยาบาลรัฐ
– Self-test มีจำหน่ายและแจกในหลายหน่วยงาน/โครงการ
รักษาฟรี• ยาต้านไวรัส ARV • เริ่มยาได้ทันที– รักษาต่อเนื่องช่วยให้ไวรัสลดลงจน “ไม่ตรวจพบ” (Undetectable)
– เมื่อไม่ตรวจพบ = ไม่แพร่เชื้อ (U=U)

บริการด้านเอชไอวีฟรี สำหรับคนไทยทุกคน

ทำไมยังมีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งที่บริการฟรี?

เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่บริการ แต่อยู่ที่…

  • ความกลัว
  • ความอาย
  • การตีตราสังคม
  • ข้อมูลผิด ๆ
  • ความเชื่อว่า “ตรวจแล้วน่ากลัว”
  • ทัศนคติของบางคนที่คิดว่า HIV เป็นเรื่องไกลตัว

วันเอดส์โลก 2568 จึงตั้งใจสื่อว่า HIV คือโรคที่จัดการได้ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องอายหรือปิดบังอีกต่อไป

บทสนทนาที่ควรเกิดขึ้นในบ้าน ในโรงเรียน ในที่ทำงาน

“ตรวจไม่พบ = ไม่แพร่เชื้อ” ข้อความสำคัญอันดับหนึ่ง

“ติดเชื้อ = ใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม” ถ้ารักษาต่อเนื่อง

บทสนทนาที่ควรเกิดขึ้นในบ้านเกี่ยวกับเอชไอวี

“อย่ากลัวที่จะไปตรวจ” ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งรักษาเร็ว

“เซ็กส์ที่ปลอดภัย คือความรับผิดชอบร่วมกัน” ไม่ใช่เรื่องของใครคนเดียว

เหตุผลที่หลายคนควรตรวจอย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง

  • รู้ผลเร็ว = รักษาเร็ว
  • ลดความกังวลใจ
  • ปกป้องคู่รักและเพื่อนร่วมทาง
  • สังคมปลอดภัยขึ้น
  • เป็นพฤติกรรมที่ควรทำเหมือนตรวจสุขภาพทั่วไป

อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

วันเอดส์โลก 2568 มีอะไร “ใหม่” บ้างในงานเอดส์?

ปีนี้มีความพยายามสำคัญหลายอย่าง เช่น

  • การผลักดันแนวคิด U=U ให้ชัดเจนขึ้น
  • การออกแบบสื่อที่เข้าถึงวัยรุ่น
  • บริการที่เป็นมิตรกับ LGBTQ+ มากขึ้น
  • การตรวจด้วยตนเองเริ่มแพร่หลาย
  • การใช้แอป/เทคโนโลยีเพื่อค้นหาหน่วยบริการใกล้บ้าน
  • แคมเปญใหม่จากภาครัฐและเอกชนเพื่อกระตุ้นให้ตรวจมากขึ้น

ทั้งหมดนี้ช่วยให้เราขยับเข้าใกล้การยุติปัญหาในปี 2573

วันเอดส์โลก 2568 มีอะไร “ใหม่” บ้างในงานเอดส์

สรุป

“วันเอดส์โลก” ในปี 2568 เตือนให้เรารู้ว่า เอชไอวีเป็นโรคที่ป้องกันได้ ตรวจได้ และรักษาได้ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ควรถูกมองด้วยความกลัวหรืออคติอีกต่อไป แม้ประเทศไทยจะยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ แต่เราสามารถลดจำนวนลงได้อย่างต่อเนื่อง หากทุกคนเข้าถึงบริการตรวจและการรักษาที่มีคุณภาพ—ซึ่งในปัจจุบัน “บริการฟรี” ช่วยให้การเข้าถึงกลายเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิมมากสิ่งสำคัญคือ คนที่รักษาอย่างต่อเนื่องจนมีผลเลือด “ไม่ตรวจพบเชื้อ” (Undetectable) จะ ไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น นี่คือข้อเท็จจริงที่ช่วยลดความหวาดกลัว ลดการตีตรา และช่วยให้ผู้ติดเชื้อใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ประเทศไทยกำลังก้าวสู่เป้าหมายปี 2573: ไม่ติดเชื้อใหม่ – ไม่เสียชีวิตจากเอดส์ – ไม่ตีตราผู้ติดเชื้อ และวิธีที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ คือการให้ ข้อมูลที่ถูกต้อง กับสังคม เพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้น ปลอดอคติ และเปิดทางให้ทุกคนเข้าถึงบริการได้อย่างเท่าเทียม ข้อมูลที่ถูกต้อง คืออาวุธที่ทำให้เราเข้าใกล้โลกที่ปลอดเอดส์มากกว่าเดิมในทุก ๆ ปี

อ้างอิงข้อมูล:

ปริมาณไวรัสที่ตรวจไม่พบและการแพร่กระจายของเชื้อ HIV
ไทยเร่งรัดยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 73 ลดผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่
หยุดตีตราตัวเอง ป้องกันและรับมือ HIV ด้านจิตใจ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
Scroll to Top